วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

The Lake House การเชื่อมเวลา จดหมาย กระจก สะพาน และบ้านริมทะเลสาบ


 หลายครั้งที่บทหนังของชาวตะวันออกได้เดินทางข้ามทวีปไปสู่ดินแดนชาติตะวันตกเพื่อนำไปกำกับในอีกรูปแบบหนึ่ง ภาพยนตร์รักจากแดนโสมอย่าง    “Il Mare” ก็เช่นกันที่เดินทางข้ามทวีป โดยมีค่ายภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่Warner Bros. Pictures เป็นผู้จ่ายค่าเดินทาง แล้วเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นฉบับตะวันตกด้วยฝีมือของผู้กำกับชาวอเจนติน่า อเลจันโดร อาเกรสติ  โดยตั้งชื่อใหม่ว่า “ The Lake House ” นอกจากนั้นยังได้นำ คีอานู รีฟ และแซนดร้า บูลล็อคคู่พระนางจากภาพยนตร์เรื่องspeedมาพบกันอีกครั้ง

The Lake House บ้านริมทะเลสาบในเมืองอิลลินอยส์ บ้านที่ดร.เคส ฟอเรสเตอร์แซนดร้า บูลล็อค )ต้องทิ้งไปอย่างเสียดาย เพราะตนเองต้องย้ายไปเป็นหมอประจำที่โรงพยาบาลในชิคาโก้ แต่ก่อนที่เธอจะออกจากบ้าน เธอได้ทิ้งจดหมายฉบับหนึ่งไว้ในตู้จดหมายหน้าบ้าน เพื่อบอกที่อยู่ใหม่ของเธอแก่ผู้ที่จะมาอยู่คนถัดไป หากมีจดหมายของเธอส่งมาที่นี่ พร้อมบอกเรื่องรอยเท้าสุนัขหน้าบ้านและกล่องใต้หลังคาอีกด้วย
อเล็กซ์ ไวเลอร์( คีอานู รีฟ ) สถาปนิกหนุ่มได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านริมทะเลสาบในช่วงฤดูหนาว เขาได้รับจดหมายของเคส ความสงสัยปรากฏขึ้นมาในตัวของชายหนุ่ม เพราะบ้านหลังนี้เขาเพิ่งซื้อมาและเป็นผู้ที่อาศัยอยู่เป็นคนแรก อีกทั้งรอยเท้าของสุนัขและกล่องใต้หลังคาที่ยังคงเป็นปริศนา หากแต่เขาก็ไม่พบความผิดปกติใดในบ้านหลังนั้น ดังนั้นอเล็กซ์จึงได้ส่งจดหมายกลับไปหาเคสเพื่อบอกว่าบ้านหลังนี้ร้างมาหลายปีแล้ว และเขาเป็นผู้ที่มาอยู่เป็นคนแรก
เคสกลับมาที่บ้านริมทะเลสาบอีกครั้งเพื่อมาพักใจเรื่องที่เธอไม่สามารถช่วยผู้ป่วยได้ เธอได้รับจดหมายของอเล็กซ์ และจากจดหมายฉบับนี้นี่เองที่ทำให้ทั้งคู่ค้นพบว่าเธอและเขาอยู่คนละช่วงเวลากัน หลังจากนั้นการตอบจดหมายผ่านตู้จดหมายหน้าบ้านริมทะเลสาบจึงเริ่มขึ้นพร้อมกับความรักที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นมาแม้ว่าทั้งคู่จะอยู่ห่างกันเป็นระยะเวลา2ปี

หากดูเพียงผิวเผินแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้คงเหมือนภาพยนตร์รักเรื่องอื่นๆทั่วไปที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นของความรัก และความเศร้าในบางเวลา แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับหนังเรื่องนี้คือการใช้ สิ่งของและสถานที่เพื่อเป็นตัวเชื่อมระหว่างอเล็กซ์และเคส


สำหรับสิ่งของที่มาเป็นตัวเชื่อมในหนังเรื่องนี้ผู้กำกับได้เลือกมา 3 อย่าง สิ่งแรก คือจดหมายโดยมีตู้จดหมายหน้าบ้านริมทะเลสาบทำหน้าที่เสมือนบุรุษไปรษณีย์ที่คอยส่งจดหมายของทั้งคู่ข้ามกาลเวลา เพื่อให้ทราบเรื่องราวของกันและกัน เหตุใดผู้กำกับถึงต้องใช้การสื่อสารทางจดหมาย เนื่องจากความเป็นภาพยนตร์รักโรแมนติก การใช้จดหมายเป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้ชมคล้อยตามอารมณ์เรื่องและเล็งเห็นถึงความตั้งใจของคนทั้งสองที่ต้องการถ่ายทอดความรู้สึกและเรื่องราวอย่างแท้จริง ทั้งนี้เพราะทั้งสองแทบจะไม่มีเวลาเลยเนื่องจากอาชีพที่ประกอบอยู่ แต่ทั้งคู่ก็ยังแบ่งเวลามาเขียนจดหมายติดต่อกัน นอกจากนั้นจดหมายเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาในการเดินทางนาน ดังนั้นจดหมายจึงเป็นนัยที่บ่งบอกถึงการรอคอย แสดงให้เห็นถึงความอดทนในการรอคอยจดหมายที่จะมาถึง เมื่อมองในอีกมุมหนึ่ง หากภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้ใช้การติดต่อผ่านจดหมาย ความเป็นภาพยนตร์รักโรแมนติกก็จะถูกทำลายลงทันที
สิ่งของต่อมาคือกระจก จะเห็นได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเสนอภาพผ่านกระจกเป็นส่วนใหญ่เช่นฉากที่เคสเดินทางกลับไปยังบ้านริมทะเลสาบอีกครั้ง เธอเดินไปที่ตู้จดหมาย ตอนนี้เองที่ผู้กำกับเสนอภาพนางเอกผ่านกระจกรถ เป็นต้น นอกจากนั้นกระจกยังปรากฏอยู่ตลอดทั้งเรื่องไม่ว่าจะเป็นที่บ้านริมทะเลสาบซึ่งเปรียบเสมือนบ้านกระจกขนาดใหญ่ หรือจะเป็นฉากที่อเล็กซ์ชวนเคสไปเดินเล่นในเมืองตอนฤดูร้อน บ้านทุกหลังที่อเล็กซ์ให้เคสดูนั้น ล้วนมีกระจกทุกหลัง และโดยเฉพาะฉากที่ผู้กำกับเสนอภาพให้ในฉากนั้นแบ่งเป็นสามส่วนโดยมีเคสอยู่ทางซ้าย  อเล็กซ์อยู่ด้านขวาและมีตึกซึ่งมีกระจกมากมายอยู่ตรงกลางกั้นคนทั้งสองไว้ กระจกในหนังเรื่องนี้กำลังบอกเราว่ากระจกทำให้เรามองให้ทุกอย่างรอบๆได้ แต่ไม่สามารถสัมผัสได้ เหมือนกับที่  อเล็กซ์ได้พูดกับน้องชายไว้ในตอนต้นเรื่อง สิ่งนี้เปรียบเหมือนชีวิตของทั้งคู่ที่ต่างรับรู้เรื่องราวของกันและกันแต่ไม่สามารถสัมผัสตัวตนของอีกฝ่ายได้เลย
สิ่งของสุดท้ายคือสะพาน ตัวเชื่อมสำคัญแห่งการเดินทางของเวลาที่พาให้ทั้งสองมาพบกันในที่สุด เนื่องจากสะพานเป็นตัวแทนของการข้าม การเดินทาง และเชื่อมดินแดนสองฝั่ง สิ่งสองสิ่ง และคนสองคนให้มาพบกัน ในเรื่องนี้สะพานจึงเป็นจุดเชื่อมของเวลาผ่านเหตุการณ์หนึ่งในอดีตและปัจจุบัน โดยในฉากที่ อเล็กซ์กำลังทาสีสะพาน สุนัขตัวหนึ่งวิ่งผ่านไปทำให้เกิดเป็นรอยเท้าทอดไปบนสะพาน นำไปสู่เรื่องราวที่เคสได้บอกกล่าวไว้ในจดหมายถึงที่มาของรอยเท้าปริศนา เป็นการนำผู้ชมให้เดินทางกลับสู่อดีตควบคู่กับการดำรงอยู่ของปัจจุบันและเชื่อมทั้งสองช่วงเวลานั้นให้เดินทางควบคู่กันไป
นอกจากสิ่งของแล้ว สถานที่ยังเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้กำกับใช้เป็นตัวเชื่อมได้ สถานที่ดังกล่าวคือบ้านริมทะเลสาบ บ้านที่เป็นตัวแทนของความรักและความสัมพันธ์ระหว่างอเล็กซ์กับพ่อของเขา บ้านหลังนี้เป็นตัวคลายปมความขัดแย้งย่อยของคนทั้งสอง เนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นเครื่องยืนยันความรักของพ่อที่มีต่อลูก  ยืนยันความรักของพ่อที่มีต่อแม่ และในขณะเดียวกันก็เป็นตัวแทนแห่งความโดดเดี่ยว ไม่ว่าจะเป็นพระเอกที่อาศัยอยู่เพียงคนเดียวในบ้าน ทั้งที่ตนเองก็มีพ่อและน้องชาย และนางเอกที่เช่าอาศัยอยู่เพียงคนเดียวเช่นกัน “บ้านริมทะเลสาบ” จึงกลายเป็นสิ่งเชื่อมโยงความโดดเดี่ยวของคนทั้งคู่ กลายเป็นความรักข้ามกาลเวลาอันแสนงดงาม

กล่าวได้ว่าความรักในเรื่อง The Lake House เป็นรูปแบบความรักที่เหนือกาลเวลา โดยมีสถานที่และสิ่งของเป็นตัวเชื่อมในความรักครั้งนี้ จนทำให้ผู้ชมประทับใจและดื่มด่ำไปกับสุนทรียภาพของความรักที่ต่างช่วงเวลา และการรอคอยกระแสแห่งเวลาที่จะไหลมาบรรจบในสักวันหนึ่ง...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น